.
“ชีวิตเราไม่ต้องเหมือนใครก็ได้ ไม่ต้องไต่ขึ้นบันไดที่เขาขีดไว้ เราเป็นมันฝรั่งที่อยู่ในดิน เราเติบโตในแบบของเรา”
“จริงๆ มันก็เป็นประเด็นที่เราพยายามจะพูดมาตลอด เรารู้สึกว่างานคราฟต์มีพลังตรงที่ว่าเป็นพื้นที่ของทุกคนได้ เป็นใครทำก็ได้ ไม่ยึดโยงกับเพศ เรามองว่างานคราฟต์ก็เป็นการแคร์อย่างหนึ่ง ไม่ว่าจะเป็นการทำงานคราฟต์เพื่อเราใช้เอง หรือว่าให้คนที่เราแคร์ใช้ อีกอย่างหนึ่งก็คือมันทำให้เกิดชุมชน เกิดการเชื่อมโยงกัน”
หาก “ศิลปะ” คือการพูดถึงโลกโดยไม่ใช้คำพูด และ “งานคราฟต์” คือการแสดงออกผ่านมือเปล่า Patata Studio คือการรวมสองสิ่งนี้เข้าด้วยกันอย่างละเมียดละไมและกล้าหาญ
ภายใต้แสงไฟที่อ่อนโยนในสตูดิโอเล็กๆ ที่จังหวัดขอนแก่น ที่นั่นในทุกๆ วัน จะมีศิลปินคนหนึ่งคอยนั่งบรรจงปั้นดินโพลิเมอร์ก้อนเล็กๆ เป็นลูกปัดแสนหวาน ทีละชิ้น ทีละแท่ง ลูกปัดที่เกิดจากการทดลอง การผิดพลาด และการฟื้นกลับมาทำใหม่ด้วยใจ เธอคือ พุธิตา ดอกพุฒ หรือ "ซูม" ศิลปินที่เบลอเส้นแบ่งระหว่างงานศิลปะ งานฝีมือ อุดมการณ์ สู่การหล่อหลอมแนวคิดแ สานทอจิตวิญญาณเรื่องสิทธิเสรีภาพในการแสดงออกและสิทธิมนุษยชน
จากนักศึกษาคณะอักษรศาสตร์ เอกภาษาและวัฒนธรรม จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย สู่การเป็นผู้สื่อข่าวสิ่งแวดล้อม และสุดท้ายเลือกหันมาเป็นศิลปินเต็มตัวเพราะอยากอยู่บ้าน อยากสัมผัสชีวิตแบบยืดหยุ่น ซูมไม่เพียงแต่สร้างสรรค์ชิ้นงานด้วยมือของตัวเอง แต่ยังใช้มือคู่นั้นต่อสายใยความสัมพันธ์ เชื่อมร้อยผู้คน และตั้งคำถามกับโลกที่เราอาศัยอยู่
สร้อยข้อมือ Amnesty Pride Candy Bracelet คืออีกหนึ่งผลงานความร่วมมือระหว่าง Patata Studio กับ แอมเนสตี้ อินเตอร์เนชั่นแนล ประเทศไทย ในวาระเดือนไพรด์ที่ซูม พุธิตา ขอใช้ลูกปัดที่เธอทำมาบอกเล่าเรื่องราวของสิทธิ เสรีภาพ และตัวตนของเธอที่สนใจเรื่องสิทธิมนุษยชน สร้อยข้อมือรุ่นนี้ไม่ใช่เพียงเป็นเครื่องประดับบนข้อมือ แต่คือข้อความ คือบทสนทนา และบางทีคือการยืนยันสิทธิขั้นพื้นฐานที่ใครหลายคนยังไม่มีโอกาสแม้แต่จะเอื้อมถึงในทุกวันนี้
“แอมเนสตี้เป็นองค์กร NGOs จากนานาชาติ แต่ก็ยังไม่ค่อยเห็นภาพว่าหน้าตาองค์กรจะเป็นแบบไหน โดยเฉพาะในสังคมไทย เรารู้สึกว่ามีไม่กี่องค์กรที่เรารับรู้ได้ในตอนนั้น และแอมเนสตี้ก็เป็นหนึ่งในนั้น ที่รู้สึกว่า ป๊อปมาก เป็นองค์กรที่สื่อสารเก่ง กล้าพูดในสิ่งที่หลายคนไม่กล้า”
“ดีใจมากๆ ไม่เคยมี NGOs ที่เข้ามาซัพพอร์ตคนทำงานฝีมือหรือศิลปะแบบนี้ รู้สึกเหมือนได้รับการเห็นคุณค่าจากแอมเนสตี้ เป็นก้าวที่น่ายินดีของชีวิตเรา และก็รู้สึกตื่นเต้นมากที่ได้ร่วมเดินทางในเส้นทางสิทธิมนุษยชนผ่านการทำงานคราฟต์และศิลปะ มันเป็นโอกาสที่ดีมาก แฮปปี้มากจริงๆ”
จากดินก้อนเล็ก สู่บทกวีแห่งความเท่าเทียม
ในโลกที่ถูกตัดสินด้วยความเหมือน ซูม พุธิตา เจ้าของ Patata Studio เลือกสร้างความไม่เหมือนให้กลายเป็นความงาม เธอเล่าว่าลูกปัดแต่ละเม็ดในสร้อยข้อมือแต่ละเส้น ถูกปั้นขึ้นด้วยมือทั้งสองข้างของเธอเพียงคนเดียว มือที่ผ่านทั้งการทำงานสื่อ งานเคลื่อนไหวทางสิ่งแวดล้อม งานรณรงค์เพื่อสิทธิมนุษยชน และสุดท้ายจึงได้พบว่าหัวใจของตัวเองไม่ใช่แค่ “คนทำงานฝีมือ” แต่เป็น “ผู้เล่าเรื่องด้วยมือเปล่า” ได้อีกด้วย
สำหรับสร้อยข้อมือ Amnesty Pride Candy Bracelet เทคนิคที่เธอใช้ทำเรียกว่าการปั้นแบบ เนริโคมะ (Nerikomi) ได้รับแรงบันดาลใจจากงานปั้นดินที่ประเทศญี่ปุ่น แต่แทนที่จะปั้นเป็นภาชนะอย่า จาน ชาม ถ้วย แก้วเพื่อใส่อาหารและเครื่องดื่ม แต่ซูมเลือกเปลี่ยนดินที่ปั้นด้วยมือทั้งสองข้างมาเป็นเม็ดลูกปัด เป็นลายธงไพรด์ เป็นสัญลักษณ์รูปเทียนของแอมเนสตี้ เพื่อสื่อความหมายที่อยู่ลึกในใจคนทำงานศิลปะสายเควียร์และเฟมินิสต์ และกว่าจะได้ลูกปัดเม็ดหนึ่งมาต้องผ่านขั้นตอนการทำหลายชั่วโมง ตั้งแต่การปั้นขึ้นรูปเป็นแท่ง ตัดเป็นลูกปัดเม็ดเล็กๆ ทั้งหมดต้องผ่านการลองผิด ลองถูก ทดลองทำสีที่หลากหลาย รวมถึงต้องรู้ว่าเมื่ออบแล้ว สีไหนจะแสดงออกมาเป็นอย่างไร ต้องรู้ว่าสีไหนอยู่ใกล้กันแล้วกลมกลืน หรือสีไหนที่อยู่ใกล้กันแล้วไม่เข้ากัน แต่ก็เป็นสิ่งที่อัศจรรย์ใจ การมาทำตรงนี้ ซูม พุธิตา ยอมรับว่าสิ่งเหล่านี้ทำให้เธอรู้จักปล่อยให้ ‘ความบังเอิญ’ หรือ ‘ความไม่เข้ากัน’ ได้ทำงานและทำหน้าที่ เพราะทุกอย่างคือศิลปะที่ให้กระบวนการพาไป มากกว่าผลลัพธ์ที่ต้องเป๊ะหรือสมบูรณ์แบบเสมอไป
“บางครั้ง ลูกปัดที่ออกมาไม่เหมือนที่คิดไว้เลย แต่กลับสวยกว่าที่จินตนาการไว้เสียอีก”
ดิน เชือก สี และความหวัง
ชื่อ “Patata” มาจากคำว่ามันฝรั่ง พืชที่ฝังตัวใต้ดิน เติบโตเงียบๆ โดยไม่อวดอ้าง แต่หยั่งรากมั่นคงเหมือนอุดมการณ์ของ ซูม พุธิตา สร้อยข้อมือ Amnesty Pride Candy Bracelet เส้นนี้ไม่ได้มีเพียงลูกปัด แต่มี “เชือก” เป็นอีกองค์ประกอบหลักในการสร้างสรรค์ ซึ่งเธอบอกว่าเชือกทุกเส้นในผลงานนี้คือตัวแทนของ “การเชื่อมโยง” เรื่องความหลากหลายในสังคมและโลกใบนี้ ไม่ว่าจะเป็นเพศ อัตลักษณ์ เชื้อชาติ อุดมการณ์ หรือความสัมพันธ์ที่เรามีต่อกันกับเพื่อนมนุษย์
“อยากให้สร้อยนี้พูดได้ว่าฉันอยู่กับเธอ เราเชื่อมโยงกัน เราสู้ด้วยกัน”
.
และสร้อยข้อมือนี้ไม่ได้เป็นแค่สวยงามแต่คือคำประกาศที่ใส่ไว้ในลูกปัดเล็กๆ ที่มีลวดลายของเทียนแอมเนสตี้ มีธงไพรด์สีรุ้ง และธงตัวแทนของความหลากหลายทางเพศ สร้อยข้อมือทุกเส้นร้อยด้วยมือ ปั้นด้วยใจ ทุกเม็ดและมีเอกลักษณ์ไม่ซ้ำกันเหมือนกับที่ทุกคนมีคาแร็คเตอร์หรือมีความเป็นตัวเองอยู่ในตัว เพราะในวันที่โลกเต็มไปด้วยความแปลกแยก เราอาจต้องการเพียงแค่เครื่องหมายเล็กๆ บางอย่าง บนข้อมือ เพื่อบอกว่าเราเข้าใจกัน หรืออย่างน้อยก็พยายามจะเข้าใจและฟังกันมากขึ้น
“เราไม่ได้ต้องการให้คนเข้าใจเรา แต่เราต้องการให้คนอยากเข้าใจความหลากหลาย”
งานคราฟต์ของซูม พุธิตา ไม่ได้ต้องการส่งเสียงกรีดร้องเสียงดัง ไม่ได้ต้องการตะโกน แต่ต้องการส่งเสียงกระซิบถึงผู้สวมใส่ ถึงคนที่มองว่าโลกนี้ยังมีความหวัง และมองว่าโลกนี้ยังมีคนที่ยืนอยู่เคียงข้างกัน แม้ไม่ได้พูดอะไรมากมาย แม้ยังไม่มีใครเคียงข้าง แต่สีของธงไพรด์ที่ร้อยเรียงอยู่ในสร้อยข้อมือรุ่นนี้ ก็เปรียบเสมือนแรงย้ำเตือนว่า “ฉันควรรักและภาคภูมิใจในตัวเองเสมอ” ไม่ว่าจะเป็นสีที่สื่อถึงชีวิต การต่อสู้ การเยียวยา แสงสว่าง ธรรมชาติ ความผสานกลมกลืน หรือจิตวิญญาณของคำว่า LGBTI สร้อยข้อมือเส้นนี้ได้ร้อยรวมธงสัญลักษณ์ของความหลากหลายทางเพศไว้หลากหลาย ได้แก่ ธงไบเซ็กชวล, ธงทรานส์เจนเดอร์, ธงเลสเบียน, ธงนอนไบนารี, ธงไพรด์, ธงแพนเซ็กชวล และธงเอเซ็กชวล ทุกเส้นที่ทำถูกออกแบบอย่างตั้งใจ ไม่ใช่แค่เพื่อให้สวยงาม แต่เพื่อให้ “แสดงออก” และ “ปกป้อง” ตัวตนที่สวมใส่มัน
งานฝีมือ หรือ อาวุธลับของความเท่าเทียม
ซูม พุธิตา ไม่เคยคิดว่างานคราฟต์หรือศิลปะคือของเล่น หรือเพียงเป็นสิ่งสวยงาม เธอเห็นสิ่งนี้เป็น “แรงขับเคลื่อนเงียบ” หรือเป็น “คลื่นใต้น้ำ” ที่ต่อสู้กับความเหลื่อมล้ำในรูปแบบใหม่ๆ ในสังคมทุกวันนี้ เพราะเธอมองว่างานคราฟต์คือศิลปะของทุกคน คนที่ทำอาจไม่ต้องมีชื่อเสียง ไม่ต้องมีใบรับรองความเก่งกาจ แต่ใครก็สามารถทำได้ ใครก็ใช้เป็นเสียงของตัวเองได้ และสำหรับเธอได้ใช้เพื่อสร้างชุมชนเฟมะนิดเฟรนด์มีต (Feminist Friend Meeting) ขึ้นมาที่จังหวัดขอนแก่น เพื่อเป็นวงสนทนาและพื้นที่ทำกิจกรรมศิลปะสำหรับผู้หญิง เควียร์ และทุกคนที่ต้องการพื้นที่ปลอดภัยในการพูดคุยเรื่องเพศ สิทธิ และชีวิตจริง จุดเริ่มต้นที่สร้างพื้นที่นี้ เกิดจากการที่เธออยากมีเพื่อน
“อย่าคิดว่าคุณจะเลือกเพียงแค่เครื่องประดับ แต่ขอให้คุณเลือกจุดยืน เลือกสนับสนุนงานของคนตัวเล็กๆ ที่กล้าส่งเสียง เลือกใส่ศิลปะที่เล่าเรื่องของคนที่อาจไม่เคยมีพื้นที่ในสังคมกระแสหลัก เพราะในบรรดาสร้อย 100 เส้นที่ทำไม่มีวันเหมือนกันเลย ต้องมีสักเส้นหนึ่งที่เป็นของคุณจริงๆ”
.
แต่กว่าจะเริ่มต้นชุมชนนี้ได้ เธอยอมรับว่าไม่ใช่เรื่องง่ายสำหรับสังคมที่เมื่อก่อนอาจยังไม่โอบรับความหลากหลาย แต่ก็ยังสามารถเติบโตมาได้จากเพื่อนเพียงสองสามคน สู่ชุมชนย่อยที่ขับเคลื่อนความเข้าใจจากขอนแก่น ไปสู่โลกออนไลน์ เดือนมิถุนายนหรือเดือนไพรด์ปีนี้ เธอไม่ได้ขอให้ใครออกมาเดินขบวน แม้ตัวเธอเองก็เคยเดินเช่นกัน แต่เธออยากชวนให้ใครที่ผ่านมาอ่านบทสนทนานี้ “ใส่” บางสิ่งที่มีความหมายไว้ในตัวเอง และอยากให้สร้อยข้อมือนี้เป็นอีกทางเลือกของทุกคน
“ลูกปัดทุกเม็ดปั้นด้วยมือ และไม่มีเม็ดไหนเหมือนกัน เพราะเราอยากให้ทุกคนรู้ว่าความไม่เหมือนของคุณ มีค่ามากพอเหมือนกับสร้อยข้อมือที่เราตั้งใจทำ”
“หากคุณกำลังมองหาสิ่งของเล็กๆ ที่มีเสียงเบาๆ แต่ทรงพลัง หากคุณกำลังหาอะไรที่มากกว่าสวยงาม ลองมองมาที่สร้อยเส้นนี้ มันอาจจะไม่ได้เปลี่ยนโลกในทันทีแต่อาจเป็นจุดเริ่มต้นของบทสนทนาของการยอมรับ ของความเข้าใจ และของความกล้าหาญที่จะเป็นตัวเอง”
งานศิลปะของซูม พุธิตา จึงไม่ได้มีหน้าที่แค่ประดับประดาเรือนร่าง แต่เป็นเครื่องมือในการตั้งคำถาม ชักชวนให้คิด กระตุ้นให้ผู้คนมองสิทธิขั้นพื้นฐานไม่ใช่เรื่องไกลตัว แต่ว่าเป็นเนื้อตัวและชีวิตประจำวันของเรา ผ่านการร้อยลูกปัดสู่การสร้างพื้นที่เฟมะนิดเฟรนด์มีต (Feminist Friend Meeting) ที่จังหวัดขอนแก่นที่เล่าไปก่อนหน้านี้ ซึ่งตอกย้ำว่าซูมไม่เพียงทำงานด้วยมือ แต่ด้วยหัวใจและวิสัยทัศน์แบบเฟมินิสต์และเควียร์ ที่เน้นความอ่อนโยนพอจะเยียวยา และแข็งแรงพอจะเปลี่ยนแปลง
“เราเชื่อมโยงกันนะ เราอยากเป็นเพื่อน เราอยู่กับเธอ เราเชื่อมโยงกับเธอ เราต่อสู้ด้วยกัน เราก็อยู่ตรงนี้ หากสร้อยข้อมือเส้นนี้พูดได้ คงอยากบอกแบบนี้แหละ”

.
สร้อยข้อมือที่พูดแทนหัวใจ Amnesty Pride Candy Bracelet
ในโลกที่เราอาจเคยถูกสอนให้เหมือนกัน คิดเหมือนกัน ใช้ชีวิตในกรอบเดียวกัน บางครั้ง “เครื่องประดับ” เส้นเล็กๆ บนข้อมือ อาจเป็นสิ่งเดียวที่ทำหน้าที่พูดแทนเรา บอกเล่าตัวตน บอกเล่าความเชื่อ และประกาศว่าเรายังยืนอยู่เคียงข้างใครบางคนอยู่เสมอ การที่ Patata Studio x Amnesty Shop Thailand คือความร่วมมือที่นำพาศิลปะ งานฝีมือ และอุดมการณ์ มาเรียงร้อยเป็นสิ่งของที่มีพลังเกินกว่าคำว่า "สวยงาม" ในชื่อ Amnesty Pride Candy Bracelet สร้อยข้อมือที่ลูกปัดทุกเม็ดล้วนปั้นด้วยมือ ละเอียด ประณีต และตั้งใจ โดยฝีมือของ “ซูม” พุธิตา ดอกพุฒ ศิลปินและนักเคลื่อนไหวจากจังหวัดขอนแก่น ผู้เชื่อว่าความหลากหลายไม่ควรถูกซ่อน แต่ควรถูกเฉลิมฉลองและได้แสดงออกมา
ดิน เชือก สี และความหวัง กลายเป็นวัสดุหลักของงานศิลปะชิ้นเล็กๆ ที่ไม่เพียงประดับข้อมือ แต่ยังผสานอัตลักษณ์ ความฝัน และเสียงที่ไม่เคยได้พูดในสังคมกระแสหลัก ทุกลวดลาย ทุกเฉดสี มีที่มา มีความหมาย และมีจุดยืน ขณะที่ลูกปัดแต่ละเม็ดคือบทสนทนา เพราะบางเม็ดพูดถึงเสรีภาพ บางเม็ดสะท้อนความรัก บางเม็ดประกาศความเท่าเทียม และบางเม็ดอาจเป็นคำกระซิบเบาๆ ว่า “คุณไม่ได้อยู่คนเดียวนะ คุณยังมีเราอยู่ข้างๆ” เพราะในโลกที่ซับซ้อนนี้ สิ่งเล็กที่สุดอาจเป็นพลังที่ยิ่งใหญ่ของการมีอยู่หรือมีตัวตนของใครบางคนบนโลกใบนี้
Amnesty Pride Candy Bracelet จึงไม่ใช่แค่สร้อยข้อมือ แต่คือคำเชิญชวนให้คุณเปิดใจ รับฟัง และกล้าสนับสนุนผลงานของคนตัวเล็กๆ ที่ใช้ศิลปะเป็นแรงผลักดันของการเปลี่ยนแปลง หากกำลังมองหาอะไรที่มากกว่าความงาม บางสิ่งที่พูดแทนได้ ลองให้สร้อยเส้นนี้ได้พูด เพราะบางทีสิ่งที่คุณใส่อาจกลายเป็นเสียงเล็กๆ ที่สร้างแรงกระเพื่อมใหญ่ในใจใครบางคน และหากคุณเชื่อในความหวัง เชื่อในความรักที่หลากหลาย เชื่อในศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์
แอมเนสตี้ ประเทศไทย ชวนให้ทุกคนเปิดใจสวมใส่สร้อยนี้ที่ข้อมือโดยสามารถติดตามสร้อยข้อมือ Amnesty Pride Candy Bracelet ได้ที่ Amnesty Shop Thailand เพื่อทำให้เรื่องสิทธิมนุษยชนเป็นเรื่องของทุกคน
“ในเดือน Pride อยากเห็นสังคมที่เปิดโอกาสให้ทุกคนได้เป็นในสิ่งที่อยากเป็น และได้รับการยอมรับอย่างแท้จริง ไม่ว่าจะเป็นใคร โดยเฉพาะกลุ่มคนที่มีความหลากหลายทางเพศ เชื้อชาติ สีผิว หรืออุดมการณ์ และอยากให้สังคมเปิดกว้างมากขึ้น ยอมรับในความหลากหลายและมีโอกาสทดลอง ทำสิ่งต่างๆ ร่วมกัน และเรียนรู้ซึ่งกันและกันในฐานะเพื่อนมนุษย์”
เบื้องหลังความสำเร็จ
Amnesty Pride Candy Bracelet เป็นสินค้าทำมือซึ่งมีจำนวนจำกัด วางจำหน่ายที่บูธของแอมเนสตี้ในช่วงเดือนไพรด์เท่านั้น ผู้ที่สนใจสามารถติดตามตารางการออกบูธของ Amnesty Shop Thailand ได้ทางโซเชียลมีเดียทุกช่องทาง
ก่อนบทความนี้จะถูกเผยแพร่ ทันทีที่ Amnesty Pride Candy Bracelet เดินทางจากขอนแก่นมาถึง Amnesty Shop Thailand ทีมงานของเราได้เดินพาสร้อยข้อมือนี้เดินสายไปยังงาน Chiang Mai Pride 2025 และ Amnesty Regional Meet Up (งานพบปะสมาชิกแอมเนสตี้ ประเทศไทย ณ จังหวัดเชียงใหม่) สร้อยข้อมือได้รับการตอบรับอย่างล้นหลาม จึงไม่มีสินค้าเพียงพอสำหรับจัดจำหน่ายในช่องทางออนไลน์ อย่างไรก็ตาม Amnesty Shop Thailand ต้องการที่จะสนับสนุน Patata Studio ด้วยการเผยแพร่เรื่องราวนี้ให้เป็นแรงบันดาลใจแก่ทุกคนที่ฝันถึงการเปลี่ยนแปลง